เครื่องหมายการค้า ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่สำคัญ สามารถสร้างมูลค่าให้กับการประกอบธุรกิจได้มหาศาล แต่ประโยชน์ของเครื่องหมายการค้าจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อนำไปใช้ให้ผู้บริโภคได้รู้จักและนิยมใช้สินค้าของคุณ เมื่อสินค้า เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและจดจำเครื่องหมายการค้านั้นได้ดี โอกาสที่คุณจะขยายธุรกิจออกไปในรูปแบบต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น ตามมา ระบบการอนุญาตให้คนอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของคุณ หรือระบบแฟรนไชส์ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจ
ความหมายของสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า |
สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า คือ หนังสือยินยอมที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว อนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตน สำหรับสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้ทั้งหมดหรือบางอย่างก็ได้ โดยมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในสัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้า สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าของผู้ได้รับอนุญาตได้อย่างแท้จริง การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า หมายรวมถึง การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการด้วย ทั้งนี้เพราะผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายนั้น ตามกฎหมายมีเพียงผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าและผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการเท่านั้น หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายนั้นมีเพียงสองอย่างคือ การทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า และการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการ
รูปแบบของสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า |
1. สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าโดยไม่เด็ดขาด (non-exclusive licensing agreement) หมายถึง สัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าอนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าของตน แต่เจ้าของเครื่องหมายการค้ายังมีสิทธิอนุญาต ให้บุคคลอื่นๆ นอกเหนือจากผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิคนก่อนใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นได้อีก รวมทั้งเจ้าของเครื่องหมายการค้า ก็ยังคงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้านั้นเอง
2. สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่ผู้เดียว (sole licensing agreement) หมายถึง สัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าอนุญาตให้ผู้หนึ่ง ผู้ใดใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าของตนแต่ผู้เดียวโดยตัดสิทธิเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จะอนุญาตให้บุคคลอื่นๆ ใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้านั้น แต่เจ้าของเครื่องหมายการค้ายังคงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้านั้นเอง
3. สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิโดยเด็ดขาด (exclusive licensing agreement) หมายถึง สัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้า อนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าของตนแต่ผู้เดียวเท่านั้น โดยที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าเองก็ไม่มีสิทธิใช้และ ไม่มีสิทธิอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้านั้น โดยเหตุที่กฎหมายเครื่องหมายการค้าได้บัญญัติว่า สัญญาอนุญาตให้ใช้ เครื่องหมายการค้าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียน ดังนั้น จึงถือว่าเป็นรูปแบบของสัญญาอย่างหนึ่ง ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 บัญญัติว่า การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ การนั้นเป็นโมฆะ ดังนั้น ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสัญญาอนุญาตฯ ต่อนายทะเบียน สัญญาฯ นั้นย่อมตกเป็นโมฆะตามกฎหมาย
หากมีผู้อื่นที่มิใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น นำเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนไว้แล้ว ไปใช้กับสินค้าชนิดเดียวกัน หรือมีลักษณะอย่างเดียวกัน ย่อมมีความผิดฐานปลอมหรือแปลงเครื่องหมายการค้าได้ แต่โดยผลการจดทะเบียนสัญญา อนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ทำให้บุคคลอื่นที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้น โดยเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน สัญญาอนุญาตฯ ไว้ จึงสามารถใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้โดยปราศจากความผิดทางอาญาหรือทางแพ่ง
ที่มา: http://www.thaismescenter.com
ติดต่อเราที่ :
52 (345/11) ซ. สุขสวัสดิ์ 40 ถ. สุขสวัสดิ์
แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140
Tel :
Email : [email protected]
Line ID : topipthailand
Website : www.topipthailand.com
—————————————————-
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 8.30-17.00 น
Via Line please Add